ควันหลงตลาดซื้อขาย มอยส์ และวู้ดเวิร์ด กลายเป็นผู้ร้าย?

ควันหลงตลาดซื้อขาย มอยส์ และวู้ดเวิร์ด กลายเป็นผู้ร้าย?
7 กันยายน 2556 6,079

หลังจากที่ผ่านช่วงฝุ่นตลบกันไปในตลาดซื้อขาย มันก็มีปฏิกิริยาที่หลากหลายทั้งชอบ และไม่ชอบเกี่ยวกับตัวของ เดวิด มอยส์ และ เอ็ด วู้ดเวิร์ด การเสียผู้จัดการทีมอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไป ทำให้แฟนๆ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็คาดหวังถึงการเสริมทีมที่จะรับประกันได้ว่าทีมจะไม่ล้มเหลว และทุกคนก็หวังเอาไว้สูงกันเหลือเกิน หากถามว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่า บางทีมันก็อาจจะไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้
เมื่อฤดูกาลก่อนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์โดยทิ้งห่าง 11 คะแนน พวกเขามีดาวซัลโวของลีกอยู่ในทีม, ยิงประตูมากที่สุด, แพ้น้อยที่สุด, มีสถิติในบ้านดีที่สุดในลีก… และมองไปทางไหนก็มีแต่สถิติดีๆ ทั้งนั้น มีนักเตะเพียงคนเดียวที่อำลาสโมสร ซึ่งก็ดูส่งผลกับทีมมากคือ พอล สโคลส์
มาในฤดูกาลนี้ ทีมปีศาจแดงเริ่มต้นด้วยการบุกไปเอาชนะสวอนซี 4-1 ทำให้ทุกคนมองว่ามันอาจจะไม่มีความแตกต่างอะไรมากในช่วงรอยต่อระหว่างยุคของเซอร์ อเล็กซ์ กับมอยส์ จากนั้นมาในเกมที่เสมอกับเชลซี มันก็ยังสามารถมองได้ว่าเป็น 1 คะแนนที่น่าพอใจแล้ว แต่สัปดาห์ต่อมาเมื่อบุกไปแพ้ให้กับคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูล ทุกคนก็เริ่มคิดหนักกันแล้ว มีการปรับราคาการคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ของทีมลงมาด้วย แม้ว่าจะผ่านไปเพียงแค่ 3 เกมก็ตาม
ในคืนวันจันทร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูวุ่นวายไปหมดกับการติดต่อทั้งเอฟเวอร์ตัน, แอธเลติก บิลเบา และเรอัล มาดริด โดยทีมปีศาจแดงพลาดในการคว้าตัว ฟาบิโอ โคเอนเทรา มาเล่นแบบยืมตัว ตรงนี้แฟนบอลทีมอื่นอาจมองว่าจะดึงเขามาทำไมกัน แต่เมื่อมองว่า ปาทริซ เอฟร่า นั้นมีอายุตั้ง 32 ปีแล้ว การคว้าตัวนักเตะอายุ 25 ปีที่ผ่านประสบการณ์มาแล้วทั้งระดับทีมชาติ และแชมเปี้ยนส์ ลีก มาเป็นอะไหล่ในตำแหน่งนี้ก็ดูเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และบางทีมันอาจจะเป็นการทดแทนตำแหน่งในระยะยาวไปเลยก็ได้
น่าเสียดายที่ดีลนี้ไม่ประสบความสำเร็จเพียงเพราะว่าทีมราชันชุดขาวไม่สามารถหาตัวนักเตะคนอื่นเข้ามาเสริมในตำแหน่งนี้แทนได้ทันเวลา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูช้าเกินไปสำหรับเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาเสียทีเดียว

สำหรับดีลของ อันเดร์ เอร์เรร่า นั้นดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนเหลือเกิน ทุกๆ อย่างดูไม่ค่อยกระจ่างชัดนัก ทำให้ทางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่พร้อมที่จะเซ็นสัญญากับเขาในช่วงเวลานี้ โดยพวกเขาอาจจะกลับไปให้ความสนใจมิดฟิลด์รายนี้ใหม่ในช่วงเปิดตลาดเดือนมกราคม
โดยปกติแล้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมที่ใจร้อนเสริมทีมหลายตำแหน่ง และหากว่ามอยส์คว้าตัวผู้เล่นเข้ามาใหม่ 4-5 คน มันก็จะมีคำถามตามมาอีกว่าเขาเปลี่ยนทีมเยอะเกินไปหรือเปล่า
กลายเป็นว่าทีมได้ตัว มารูยาน เฟลไลนี่ เข้ามาเสริมทัพเพียงคนเดียว ซึ่งมันก็ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อีกว่าทำไมพวกเขาไม่ซื้อนักเตะคนนี้ด้วยค่าฉีกสัญญาตั้งแต่เดือนก่อน ด้วยค่าตัวที่ถูกกว่าถึง 4 ล้านปอนด์นั้นถือว่าไม่น้อยเลยในตลาดซื้อขายนักเตะสมัยนี้
บางทีคุณก็อาจจะรู้คำตอบอยู่แล้ว มอยส์ต้องการตัวเฟลไลนี่อย่างจริงจัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการนักเตะประเภทนี้ และงานก็ได้เสร็จสิ้น เขาจะเข้ามาช่วยพัฒนาเกมในแดนกลางของทีมปีศาจแดง นักเตะคนอื่นทั้ง ชินจิ คากาวะ และ ไมเคิล คาร์ริค จะมีผู้ช่วยให้พวกเขาเค้นฟอร์มเก่งออกมา
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขาดนักเตะแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่เสีย รอย คีน ไป และการเข้ามาของเฟลไลนี่ก็จะช่วยให้ทีมของมอยส์มีความแข็งแกร่งมากขึ้นในแดนกลาง นี่จึงถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมเลย
มันมีคำพูดประมาณว่า “ถ้าเป็นเซอร์ อเล็กซ์ มันคงไม่เป็นแบบนี้แน่” หรือ “วู้ดเวิร์ดกำลังทำอะไรอยู่” ปรากฏขึ้นเต็มไปหมดในโซเชียล มีเดีย นั่นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับการลงสนามแล้วต้องโดนใบเหลืองของสโคลส์ จริงอยู่ที่ว่าเซอร์ อเล็กซ์ อาจจะไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่อย่าลืมว่าเขาไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมอีกต่อไปแล้ว และแฟนๆ ปีศาจแดงทุกคนก็จะต้องหนุนหลังผู้เข้ามาใหม่อย่างมอยส์ และวู้ดเวิร์ดกันให้เต็มร้อย ทั้งคู่เองก็กำลังเรียนรู้อยู่เช่นกัน
มอยส์เพิ่งจะเข้ามาทำทีมได้ไม่ถึง 3 เดือน และเขาก็ไม่เคยเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้มาก่อน เช่นเดียวกับวู้ดเวิร์ดที่ต้องเข้ามารับผิดชอบเรื่องการซื้อขายนักเตะแบบเต็มตัว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาดูแลเพียงแค่เรื่องสปอนเซอร์ของสโมสรเท่านั้น ทั้ง 2 คนต้องการเวลาอีกสักเล็กน้อยเพื่อปรับตัวเข้ากับความคาดหวังต่างๆ จากแฟนบอลให้ได้
ก่อนหน้านี้มันมีกรณีที่ทำให้ทีมรู้สึกล้มเหลว เมื่อประกาศต่อสาธารณชนว่าต้องการตัว เชส ฟาเบรกาส แต่ก็ไม่สามารถคว้าตัวเขามาร่วมทีมได้ มิดฟิลด์พรสวรรค์รายนี้บอกว่าเขายังมีความสุขดีกับสโมสรที่ชื่นชอบในวัยเด็กของเขา แต่หากถามว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผิดหรือเปล่าที่พยายามโน้มน้าวเขามาร่วมทีม คำตอบก็คือไม่เลย เขาจะเข้ามาพัฒนาทีมได้แน่นอน เพียงแต่เขาไม่อยากย้ายเข้ามาเท่านั้นเอง
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีการยื่นข้อเสนอ 12 ล้านปอนด์สำหรับคว้าตัว เลห์ตัน เบนส์ จากเอฟเวอร์ตัน นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่หลายคนพากันหัวเราะเยาะทีมปีศาจแดง แต่หากมองกันลึกๆ แล้ว ด้วยราคานี้กับแบ็คซ้ายที่มีอายุ 28 ปีก็ถือว่าเป็นข้อเสนอที่แฟร์พอสมควร
สำหรับสถานการณ์ของ ชินจิ คากาวะ ก็น่าสนใจไม่น้อยในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบนี้ เขาถูกใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ คว้าตัวเขามาเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน แต่ในช่วงท้ายๆ ฤดูกาล เขาก็ได้แสดงให้เห็นว่าเขานี่แหละคือมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมที่จะสามารถทดแทนตำแหน่งของสโคลส์ ได้

บางคนก็มองว่าเขาคือคำตอบสำหรับมิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ก็มีอีกส่วนหนึ่งที่รู้สึกยินดีกับข่าวเกี่ยวกับเอร์เรร่า ซึ่งจะเข้ามาขับเคี่ยวตำแหน่งภายในทีมกับคากาวะ ตรงนี้ต้องรอดูกันว่ามอยส์จะใช้งานมิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ดูผิดหวังเป็นอย่างมากที่อดีตลูกทีมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ของเขาไม่ได้ลงเล่นในตำแหน่งที่ถนัดอย่างแท้จริง มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่ามอยส์จะให้โอกาสคากาวะมากแค่ไหน แต่สำหรับตัวดาวเตะซามูไรนั้น เขายังคงตั้งใจอย่างเต็มที่เพื่อตำแหน่งในทีม
ด้วย 11 ตัวจริงที่มีทั้ง ดาบิด เด เคอา, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอฟร่า, วิลฟรีด ซาฮา, มารูยาน เฟลไลนี่, ไมเคิล คาร์ริค, ชินจิ คากาวะ, เวย์น รูนี่ย์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นี่ก็ถือว่าดีพอที่จะต่อกรกับทุกทีมในพรีเมียร์ ลีก ได้แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีนักเตะอย่าง แดนนี่ เวลเบ็ค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์, แอนเดอร์สัน, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, แอชลี่ย์ ยัง, นานี่, ไรอัน กิ๊กส์ และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย อยู่ในทีมอีกด้วย นี่ยังไม่นับเด็กรุ่นใหม่อย่าง เจสซี่ ลินการ์ด หรือ แอดนาน ยานูซาย ที่พร้อมก้าวขึ้นมาสร้างความแตกต่าง
ใช่แล้ว เพียงแค่นี้ก็ถือว่าเพียงพอ และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปเสี่ยงคว้าตัวนักเตะที่ไม่ใช่สำหรับทีมเข้ามาแบบไม่ลืมหูลืมตา
ลองสมมติดูเล่นๆ ว่าหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวนักเตะอย่าง วิคเตอร์ โมเซส เข้ามาเล่นแบบยืมตัว แฟนๆ ก็คงจะไม่ชอบใจอย่างแน่นอน นั่นผิดกับลิเวอร์พูลที่เขาสามารถลงเล่นเป็นตัวจริงได้อย่างสบาย นี่คือความคาดหวังที่แตกต่างกันระหว่างทั้ง 2 สโมสร
ย้ำกันอีกครั้งว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดนี้ดีเพียงพอแล้วที่จะลุ้นแชมป์ลีก ส่วนในแชมเปี้ยนส์ ลีก นั้นว่ากันตรงๆ ก็คืออาจจะยังดีไม่พอ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ใช่จุดจบของทีมอย่างที่หลายๆ คนพากันหวาดวิตกซะหน่อย
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts