แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะก่อนเข้าสู่ช่วงเบรคเกมทีมชาติ โดยเปิดบ้านเฉือนเอฟเวอร์ตันไป 2-1 หลังจากที่ทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินเคยเอาชนะทีมปีศาจแดงได้แบบไปกลับมาเมื่อฤดูกาลก่อน
นักเตะใหม่ทั้ง อังเคล ดิ มาเรีย และ ราดาเมล ฟัลเกา ควงกันถล่มประตู ขณะที่ทีมเยือนจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ได้ประตูจาก สตีเว่น เนสมิธ โดยเกมนี้ ดาบิด เด เคอา สามารถเซฟลูกจุดโทษจาก เลห์ตัน เบนส์ ในครึ่งแรกได้ด้วย
ทีมปีศาจแดงเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกก่อน ฟัลเกาได้พุ่งโขกลูกโยนจาก ลุค ชอว์ แต่บอลก็ยังไปเข้ามือ ทิม โฮเวิร์ด จากนั้นก็เป็น ดิ มาเรีย ที่ครอสจากฝั่งซ้ายให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โหม่งข้ามคาน
เจ้าถิ่นยังคงหาโอกาสทำประตูอย่างต่อเนื่องจากทั้ง ดาลี่ย์ บลินด์, ราดาเมล ฟัลเกา และ ดิ มาเรีย หลังจากกระหน่ำเปิดเกมเข้ากดดันอยู่นาน ลูกครอสจาก ราฟาเอล ดา ซิลวา ก็มาถูกสกัดโดย ฟิล จากิลก้า บอลมาเข้าทาง ฮวน มาต้า ที่ไหลต่ออย่างเหมาะเจาะให้ ดิ มาเรีย และดาวเตะชาวอาร์เจนตินาก็แปด้วยขวาเสียบเสาเข้าไปเป็นประตูขึ้นนำ
นักเตะยอดเยี่ยมเดือนกันยายนของสโมสรมาถูกโฮเวิร์ดปฏิเสธประตูที่ 2 จากลูกยิงฟรีคิกในจังหวะต่อมา ถึงตรงนี้เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คุมเกมอยู่ฝั่งเดียว อย่างไรก็ตาม ราฟาเอลก็ต้องมาเคลียร์จังหวะอันตรายในลูกเตะมุม และ โรเมลู ลูกากู ก็สลัดการประกบของ แพ็ดดี้ แม็คแนร์ ได้ นั่นเริ่มเป็นการส่งสัญญาณเตือนจากเอฟเวอร์ตันแล้ว
ครึ่งแรกกำลังจะจบลง แต่ทีมเยือนก็มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ชอว์ไปทำฟาวล์ โทนี่ ฮิบเบิร์ต ในกรอบเขตโทษ เบนส์ที่เชี่ยวชาญด้านการยิงตรงนี้เป็นพิเศษรับหน้าที่สังหารไปติดเซฟ เด เคอา ที่พุ่งถูกทางพอดี
แม้ว่าครึ่งหลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา แต่ฟัลเกาก็ยังไม่สามารถเข้าถึงลูกจ่ายจากเพื่อนร่วมทีมได้เลย และก็กลายเป็นทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินที่มาตีเสมอได้สำเร็จในนาทีที่ 55 จากลูกฟรีคิกนำไปสู่จังหวะครอสเข้ากลางของเบนส์ และเนสมิธที่ไม่มีตัวประกบก็โขกเข้าไปโล่งๆ จากระยะใกล้
ฟัลเกาต้องลงมาช่วยเกมรับในลูกเตะมุมของทีมเยือน และเขาก็เคลียร์จากเส้นได้ในจังหวะอันตราย จากนั้นด้วยการทำเกมมาของราฟาเอลกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย บอลมาเข้าเท้า ดิ มาเรีย ที่พยายามสับไกยิง บอลมาเข้าทางปืนฟัลเกา และเขาก็สะกิดเปลี่ยนทางผ่านมือโฮเวิร์ดเข้าไปให้เจ้าถิ่นออกนำอีกครั้ง แต่แม้ว่าเขาจะทำประตูได้ เขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจากนั้นไม่นาน
เนสมิธมาพลาดโอกาสทอง จากนั้น เด เคอา ก็มาเซฟจังหวะยิงจาก เลออน ออสแมน ถือเป็นการช่วยให้ทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล รักษาสกอร์ขึ้นนำเอาไว้ได้จนเข้าถึงช่วงท้ายเกม และนายทวารชาวสเปนก็ยังไม่หยุดโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยม เขาพุ่งเซฟลูกยิงของ ไบรอัน โอเวียโด้ ได้อีกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ทีมปีศาจแดงสามารถเก็บชัยชนะไปครองได้สำเร็จ
สถิติ